ไวรัสโคโรนา” หรือ “โค วิด-19” คืออะไร อาการเป็นอย่างไร
วิกฤตการแพร่ระบาดของโรค โค วิด-19 ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ดูเหมือนจะกินเวลายาวนานชั่วนิรันดร์ แต่อันที่จริงแล้วโลกของเราเพิ่งรู้จักกับไวรัสชนิดนี้เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้วนี้เอง
แม้จะมีความพยายามจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ที่ค้นหาคำอธิบายเกี่ยวกับโรคนี้ แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่นักวิทยาศาสตรยังไม่อาจทำความเข้าใจได้ ขณะนี้เองที่เรากำลังเป็นส่วนหนึ่ง ของการค้นคว้าทดลองที่ใหญ่ระดับโลก เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับโรคนี้
ไวรัสโคโรนา หรือ โค วิด-19 คืออะไร ?
ไวัรสโคโรนา (Corona virus) เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์ และ สัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลก ตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และ ในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โค วิด-19” (COVID-19) นั่นเอง ดังนั้น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และไวรัส โค วิด-19 จึงหมายถึงไวรัสชนิดเดียวกัน
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19 มาจากไหน ?
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ ไวรัส โควิด-19 แรกเริ่มเดิมทีถูกค้นพบจากสัตว์ก่อน โดยเป็นสัตว์ทะเลที่มีการติดเชื้อไวรัสนี้ แล้วคนที่อยู่ใกล้ คลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้ ก็ติดเชื้อไวรัสมาอีกที โดยเริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากตลาดที่ค้าขายสัตว์ทะเล และ สัตว์หายากเหล่านี้
อาการเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัส โควิด-19
อาการของไวรัส COVID-19 ที่สังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. มีไข้ 2. เจ็บคอ 3. ไอแห้ง ๆ 4. น้ำมูกไหล 5. หายใจเหนื่อยหอบ |
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19
- เด็กเล็ก (แต่อาจไม่พบอาการรุนแรงเท่าผู้สูงอายุ)
- ผู้สูงอายุ
- คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง
- คนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือกินยากดภูมิต้านทานโรคอยู่
- คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมาก (คนอ้วนมาก)
- ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี อิหร่าน ฯลฯ
- ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
- ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ลูกเรือสายการบินต่าง ๆ เป็นต้น
หากมีอาการ COVID-19 ควรทำอย่างไร ?
หากมีอาการของโรคที่เกิดขึ้นตาม 5 ข้อดังกล่าว ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด และเมื่อแพทย์ซักถามควรตอบตามความเป็นจริง ไม่ปิดบัง ไม่บิดเบือนข้อมูลใด ๆ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องมากที่สุด
หากเพิ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอกเป็นเวลา 14-27 วัน เพื่อให้ผ่านช่วงเชื้อฟักตัว (ให้แน่ใจจริง ๆ ว่าไม่ติดเชื้อ)
หากสงสัยว่าตัวเองอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัส โค วิด-19 ควรทำอย่างไร ?
หากตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีอาการของโรค หรือเพิ่งกลับจากประเทศที่เสี่ยงติดเชื้อมา สามารถขอตรวจโรคกับทางโรงพยาบาลได้ มีทั้งแบบฟรี และแบบมีค่าใช้จ่าย
**หากไม่มีอาการใด ๆ เลย ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจ
ตรวจเชื้อไวรัส COVID-19 ฟรี หากผู้เข้าตรวจตรงตามเกณฑ์เหล่านี้
- เพิ่งกลับจากการเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง
– ประเทศไหนคนไทยอย่าไป ในสถานการณ์ไวรัส “COVID-19” - มีอาการผิดปกติที่ระบบทางเดินหายใจ
- มีไข้มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส
- มีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย ปอดอักเสบอย่างไม่ทราบสาเหตุ
- มีประวัติใกล้ชิด หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ เช่น คนในครอบครัวเพิ่งกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง
- ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อ ลูกเรือสายการบิน เป็นต้น
วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด กับ ผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
- หลีกเลี่ยงการเดินทาง ไปในพื้นที่เสี่ยง
- สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
- ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และ อาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดประตูในรถ กลอนประตูต่าง ๆ ก๊อกน้ำ ราวบันได ฯลฯ เมื่อจับแล้วอย่าเอามือสัมผัสหน้า และ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า ฯลฯ
- ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ ไม่ต่ำกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ)
- งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
- หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน
- รับประทานอาหารสุก สะอาด ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
- สำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา
ตรวจสอบสถานการณ์ล่าสุดได้ ที่นี่
สามารถอ่านบทความอื่นเพิ่มเติมได้ที่ Website : Jarviz Blog
หรือ ใน Facebook : Visit Facebook