ทำไมต้องมีการลงเวลาทำงาน ?
การลงเวลาทำงาน เป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานของรัฐ และเอกชน จะต้องมีระบบการควบคุมในการลงเวลาทำงาน โดยเฉพาะหน่วยงานเอกชนที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เนื่องจากตามมาตรา 23 ของกฎหมายดังกล่าว กำหนดให้นายจ้างประกาศเวลาทำงานปกติ ให้ลูกจ้างทราบ โดยกำหนดเวลา เริ่มต้นและเวลาสิ้นสุด ของการทำงานแต่ละวันของลูกจ้าง ได้ไม่เกินวันละ 8 ชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้ว สัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง
เว้นแต่งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของลูกจ้าง ต้องมีเวลาทำงานปกติวันหนึ่งไม่เกิน 7 ชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่ง ต้องไม่เกิน 42 ชั่วโมง หากเกินชั่วโมงการทำงานดังกล่าว ก็ถือเป็นการทำงานล่วงเวลา ซึ่งกฎหมายกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าวันเวลาทำงานปกติ ดังนั้น หากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน หรือกฎหมายอื่น การลงเวลาทำงานก็จะสามารถ ใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาลได้ รวมถึงสามารถนำไปใช้ในการคิดคำนวณค่าจ้าง ค่าตอบแทน หรือความดีความชอบให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน หรือลูกจ้างได้อีกด้วย
โปรแกรมลงเวลางานออนไลน์ ใช้งานฟรี ลงทะเบียนเลย https://www.jarvizapp.com/register/
การลงเวลาของแต่ละหน่วยงานมีความแตกต่างกัน โดยเริ่มจากอดีต มีการใช้วิธีลงลายมือชื่อในสมุดคุมวันและเวลาทำงาน ซึ่งวิธีการนี้ก็ยังคงมีการใช้อยู่ในหลายหน่วยงานของรัฐ ต่อมาก็มีการใช้ วิธีการตอกบัตรลงเวลาทำงาน แต่ทั้ง 2 วิธีนี้ ก็มีข้อเสีย คือ อาจมีการลงชื่อหรือตอกบัตรแทนกันได้ จึงได้มีการนำระบบการสแกนลายนิ้วมือมาใช้ในการลงเวลาทำงาน แต่เมื่อสภาพการทำงานในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ลักษณะงานบางอาชีพไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานในสำนักงาน จึงมีการพัฒนาระบบลงเวลาทำงานแบบออนไลน์ขึ้นมาใช้
จากการตรวจสอบ คำพิพากษาศาลฎีกา พบข้อพิพาทในชั้นศาล ที่เกี่ยวข้องกับเวลาการทำงาน ดังนี้
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12194-12198/2553 การที่โจทก์ได้รับคำสั่ง ให้ทำงานล่วงเวลาเมื่อทำงานล่วงเวลาเสร็จ แต่มิได้ตอกบัตรเพื่อลงเวลาเลิกงานด้วยตนเอง ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับของจำเลย เรื่อง การตอกบัตรแทนกัน หากฝ่าฝืนจำเลยจะลงโทษสูงสุดโดยการปลดจากการเป็นพนักงานทันที ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยเกี่ยวกับการตอกบัตรเวลาทำงานนอกจากจะเป็นหลักฐานแสดงถึงระยะเวลาที่ลูกจ้างของจำเลยแต่ละคนปฏิบัติงานในแต่ละวันแล้ว ยังเป็นหลักฐานในการเบิกจ่ายค่าจ้างและค่าทำงานล่วงเวลาในกรณีที่มีการทำงานล่วงเวลาซึ่งจำเลยได้ประกาศเตือนลูกจ้างแล้ว หากมีการทุจริตเกี่ยวกับการตอกบัตรเวลาจำเลยจะเลิกจ้างทันที ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน และการตอกบัตรเวลาทำงานมีความสำคัญ ที่จำเลยยึดถือเป็นหลักปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้การปกครอง และระเบียบการทำงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะจำเลยที่มีลูกจ้างจำนวนมาก แม้โจทก์ยังมิได้ เบิกค่าล่วงเวลา แต่การกระทำของโจทก์ดังกล่าวส่อไปในทางทุจริต และถือได้ว่าการกระทำของโจทก์ดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือระเบียบหรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายอย่างร้ายแรง จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้และถือเป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุผลและเป็นธรรม
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3041/2531 โจทก์ลาป่วยทุกเดือนรวม 38 วัน และลากิจเป็นบางเดือนอีก 20 วัน การที่โจทก์ลาป่วยไม่เว้นเดือนและลาป่วยเกินสิทธิตามข้อบังคับ แสดงว่าสุขภาพของโจทก์ไม่สมบูรณ์ แม้เป็นการลาป่วยโดยได้รับอนุญาตจากจำเลยและโจทก์ยังสามารถทำงานต่อไปได้ ก็ถือได้ว่าโจทก์เจ็บป่วยจนหย่อนสมรรถภาพในการทำงานอันเป็นเหตุสมควรให้เลิกจ้างได้ไม่เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9548-9570/2539 งานของจำเลยตกอยู่ในบังคับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานข้อ 3 (3) ที่จำเลยจะต้องจัดให้ลูกจ้างทำงานไม่เกินสัปดาห์ละ 42 ชั่วโมง เมื่อปรากฏว่าจำเลยให้โจทก์ทำงานสัปดาห์ละ 48 ชั่วโมงหรือเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง โดยทำงาน 6 วันเวลาทำงานปกติคือ 8 ถึง 17 นาฬิกา พัก 12 ถึง 13 นาฬิกา โจทก์จึงทำงานล่วงเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ซึ่งจำเลยต้องจ่ายค่าล่วงเวลาให้แก่โจทก์
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11182/2553 การที่นายจ้างกำหนดให้วันทำงานปกติของนายจ้างเป็นวันหยุดแทนวันหยุดตามประเพณีและจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดแทนวันหยุดตามประเพณีตามอัตราค่าจ้างในวันหยุด ถือเป็นการตกลงจ่ายค่าตอบแทนในการทำงานเกินไปกว่าค่าจ้างในวันทำงานปกติตามอำเภอใจเสมือนหนึ่งว่าชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันต้องชำระ นายจ้างจะถือว่าได้ชำระหนี้ค่าทำงานในวันหยุดและค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดตามประเพณีแล้วหาได้ไม่ และหากนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุดตามประเพณีก็ต้องจ่ายค่าทำงานในวันหยุดหรือค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างอีกส่วนหนึ่ง
ผมเองก็มีแอพดีๆมานำเสนอครับ สะดวก ใช้งานง่าย สมัครใช้ Jarviz กับแบบ ฟรีๆ หรือแบบจ่ายรายปี เริ่มต้น แค่เดือนละ 667 บาท ใช้ได้ สูงสุด 500 คน มีครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน ลงเวลางาน เบิกเงิน ลากิจ ลาป่วย ลาพักร้อน ลองไปใช้งานฟรีกันดูนะครับ
สนใจใช้งานฟรีคลิก : https://www.jarvizapp.com/register/