เมนู Settings

จะประกอบไปด้วย 6 เมนูคือ

• Company Setting : จะเป็นการตั้งค่า โค้ดสีของแต่ละบริษัท, การใส่ Logo บริษัท และ การตั้งค่า Splash Screen
• Force Reset : จะเป็นการบังคับให้ทุกคนในองค์กร Login ใหม่ (เฉพาะกรณีที่มีปัญหาทุกคนทั้งระบบ)
• Check in and Check out Setting : เป็นการ Set ระยะการปักมุด, กำหนดเวลา Check out, กำหนดการ Check out ที่ไหนก็ได้ และ ตอน Check In กำหนดให้ถ่ายหรือไม่ถ่ายรูปก็ได้
• Leave Notification Email Setting : จะเป็นการแจ้งเตือนอีเมล์ ทั้งกรณีที่พนักงานขอลา ไปยัง HR หรือ Admin และ กรณีที่ HR หรือ Admin อนุมัติเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีอีเมล์แจ้งเตือนให้ทั้งพนักงาน, HR และ Admin รับทราบด้วย
• Leave Date Setting : จะเป็นการ Reset วันลา
• Petty Cash Notification email setting : จะเป็นการตั้งค่าการแจ้งเตือนของการเบิกเงินสดย่อย การตั้งค่าและการแจ้งเตือนจะคล้ายกับ Leave Notification Email Setting

1. Company Setting

♦ Company Color Code : จะเป็นโค้ดสีของแต่ละบริษัท
♦ Company Logo : ให้ browse ไฟล์ภาพ Logo โดยไฟล์ภาพ Logo จะมีนามสกุลไฟล์เป็น .JPG, .PNG หรือ BMP และ ขนาดกว้างxยาว ของ Logo 256 x 256 px ขนาดไฟล์ไม่เกิน 2 MB

♦ Splash Screen Delay Time (second) : จะเป็นการแสดง Screen ทั้งสีและโลโก้ของบริษัทลูกค้า ก่อนการเข้าใช้งานแอพพลิเคชั่น Jarviz
♦ Default Language For Mobile Users : เลือกภาษาที่ต้องการเมื่อเปิด App Jarviz ทั้งใน Web และ Mobile

– เมื่อตั้งค่าที่เมนู Settings เรียบร้อยแล้ว ใน Mobile จะปรากฏดังรูป

2. Force Reset

– เป็นการ Reset การใช้งาน App Jarviz ใน Mobile ของพนักงานทุกคนในองค์กร โดยให้คลิ๊กที่ปุ่ม

– จะมี Popup แสดงขึ้นมา โดยให้พิมพ์คำว่า “Confirm” ในช่องว่าง และ ให้คลิ๊กที่ปุ่ม และ ปุ่ม OK

– ใน Mobile จะให้ทำการ Login เข้าใช้งาน App Jarviz ใหม่

3. Check in and Check out Setting

– Allow forget Check-In
กรณีที่พนักงานลืมเช็คอิน ถ้ามีการติ๊กถูกหัวข้อนี้ แปลว่า จะเป็นการยอมให้พนักงานใช้ฟีเจอร์ Forget Check In ซึ่งถ้าพนักงานใช้ฟีเจอร์นี้แล้วจะสามารถเลือกเวลาที่ลืมเข้างานได้เลย แต่ลูกค้าต้องตรวจสอบที่องค์กรของตัวเองว่าพนักงานท่านั้นมาทำงานเวลานั้นจริงหรือไม่

– Hide Work Description In
เป็นการกำหนดให้พนักงานกรอก ชื่อออฟฟิศ, ไซต์งานที่ได้ไปทำงาน หรือ ที่บ้าน ในมือถือที่หน้า Check In แต่ถ้ามีการติ๊กเครื่องหมายถูก แปลว่า จะเป็นการซ่อนช่องกรอกนี้ในมือถือ

– Hide Hide Work Description Out
เป็นการกำหนดให้พนักงานกรอก ชื่อออฟฟิศ, ไซต์งานที่ได้ไปทำงาน หรือ ที่บ้าน ในมือถือที่หน้า Check Out แต่ถ้ามีการติ๊กเครื่องหมายถูก แปลว่า จะเป็นการซ่อนช่องกรอกนี้ในมือถือ

– Range between pin and current location
เป็นการกำหนดระยะการเลื่อนหมุดในแผนที่ ที่หน้า Check In ของมือถือ โดยหมุดที่เลื่อนจะนับจาก Current Location ไปตามรัศมีที่กำหนด (ขั้นต่ำคือ 20 เมตร) หรือ ถ้าติ๊กเครื่องหมายถูก จะทำให้หมุดไม่สามารถเลื่อนได้

– Check-Out Time
การกำหนดเวลา Check Out ในมือถือ ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกก่อน แล้วกำหนดเวลาที่ต้องการ แต่ถ้ากำหนดเวลา Check Out ไว้แล้ว พอเลยเวลาที่กำหนดแอพ Jarviz จะไม่สามารถ Check Out ได้เลย

– Allow check out at different location
เป็นการกำหนดให้พนักงานสามารถ Check Out ในมือถือ สถานที่ไหนก็ได้ ให้เลือกเป็น Allow แต่ถ้าจะบังคับให้พนักงาน Check Out บริเวณเดียวกับตอน Check In ต้องเลือกเป็น Block

– Check in Attendance Picture
ตอน Check In ในมือถือ สามารถกำหนดได้ว่า

1.ต้องการให้พนักงานถ่ายรูปสถานที่ หรือ อาจจะเซลฟี่ตัวเองกับสถานที่ก็ได้

2.ไม่บังคับ พนักงานให้ถ่ายรูปตอน Check In

– Check Out Attendance Picture
ตอน Check Out ในมือถือ สามารถกำหนดได้ว่า

1.ต้องการให้พนักงานถ่ายรูปสถานที่ หรือ อาจจะเซลฟี่ตัวเองกับสถานที่ก็ได้

2.ไม่บังคับ พนักงานให้ถ่ายรูปตอน Check Out

– Block check in if:
เป็นการป้องกันไม่ให้พนักงานทำการทุจริต โดยถ้ามีการ Enable แต่ละตัวจะหมายถึง

Root Detected ระบบ Android หากเรา root ระบบแล้ว เราจะสามารถเข้าไปแก้ไขไฟล์ระบบได้ในทุกจุด ดังนั้นเมื่อ Jarviz ตรวจพบว่า มือถือของพนักงานมีการ root ก็จะส่งข้อมูลพร้อมกับรายงานใน เว็บ Jarviz ด้วย

Developer Mode Detected วัตถุประสงค์ของโหมดนี้จะช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนข้อมูลระบบได้ ในเฉพาะส่วนที่ระบบอนุญาตเท่านั้น ซึ่งต่างกับ root ทำให้ Jarviz มองเห็นว่าผู้ใช้มีโอกาสเข้าไปแก้ไขข้อมูลการที่ใช้ประกอบการลงเวลาทำงานได้ จึงจะส่งรายงานในส่วนนี้เข้ามาในระบบด้วย

Mock GPS Detected คือ การเปลี่ยนพิกัดที่อยู่ปัจจุบัน ไปเป็นจุดอื่นตามข้อมูลพิกัดที่ใส่เข้าไป ทำให้ Admin หรือ HR เข้าใจว่าพนักงานได้ไปถึงที่ไซต์งานนั้นแล้ว แต่แอพ Jarviz สามารถตรวจพบได้ว่า ถ้าพนักงานมีการใช้งานแอพ Fake GPS จะทำให้พนักงานไม่สามารถ Check In หรือ Check Out ได้เลย

เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยแล้วให้คลิ๊กที่ปุ่ม

4. Leave Notification Email Setting

– Leave Request Notification Email
เป็นการกำหนดการแจ้งเตือน กรณีที่พนักงานมีการขอลาในแอพ Jarviz ระบบจะส่งอีเมล์ไปยัง Admin หรือ HR ที่กำหนด และ จะแจ้งเตือนไปยังเว็บ Jarviz ด้วย เพื่อให้ Admin หรือ HR สามารถเข้าไปในเว็บ Jarviz เพื่อ Approve ได้

** หมายเหตุ **
1.ถ้าต้องการเพิ่มอีเมล์หลายๆ อีเมล์ ในช่อง Email Recipient ให้ใส่เครื่องหมาย Comma (,) ขั้นแต่ละอีเมล์
2.ถ้าต้องการให้ส่งเฉพาะพนักงานที่มี Role เป็น HR หรือ Admin ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง All HR/Admin in the company

– Leave Approval Notification Email
เป็นการกำหนดการแจ้งเตือน เมื่อ Admin หรือ HR ทำการ Approve ในเว็บ Jarviz แล้ว ระบบจะส่งอีเมล์ไปยังพนักงานท่านนั้น ที่ขอลามา

5. Leave Date Setting

– Leave Date Setting
เป็นการ Reset วันลาใหม่ สำหรับ กรณีที่ลูกค้าลองทดสอบการลาไปหลายๆ ครั้ง แล้วอยากเคลียร์ข้อมูลการลาทั้งหมด

6. Petty Cash Notification email setting

– Petty Cash Request
เป็นการกำหนดการแจ้งเตือน กรณีที่พนักงานมีการขอเบิกเงินสดย่อยในแอพ Jarviz ระบบจะส่งอีเมล์ไปยัง Admin หรือ HR ที่กำหนด และ จะแจ้งเตือนไปยังเว็บ Jarviz ด้วย เพื่อให้ Admin หรือ HR สามารถเข้าไปในเว็บ Jarviz เพื่อ Approve ได้

** หมายเหตุ **
1.ถ้าต้องการเพิ่มอีเมล์หลายๆ อีเมล์ ในช่อง Email Recipient ให้ใส่เครื่องหมาย Comma (,) ขั้นแต่ละอีเมล์
2.ถ้าต้องการให้ส่งเฉพาะพนักงานที่มี Role เป็น HR หรือ Admin ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกที่ช่อง All HR/Admin in the company

– Petty Cash Approval
เป็นการกำหนดการแจ้งเตือน เมื่อ Admin หรือ HR ทำการ Approve ในเว็บ Jarviz แล้ว ระบบจะส่งอีเมล์แจ้งเตือนไปยังพนักงานท่านนั้น ที่ขอเบิกเงินสดย่อยมา